1. ชำระค่าธรรมเนียมบันทึกข้อมูลของนักเรียนต่างชาติที่เดินทางเข้าไปศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา (The Student and Exchange Student Visitor Information System, SEVIS) $350
2. กรอกแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าอเมริกา DS160
3. ชำระค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าอเมริกา $160 (4,960 บาท) ที่ธนาคารกรุงศรี หรือชำระผ่านบัตรเครดิต / เดบิต ผ่านระบบออนไลน์ที่ https://www.fmjfee.com/i901fee/ (มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม)
4. ทำการนัดวันสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาผ่านระบบออนไลน์ โดยจะสามารถเข้าไปทำนัดสัมภาษณ์ได้ หลังจากชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าประมาณ 24 ชั่วโมง
5. เดินทางไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในกรุงเทพมหานคร 95 ถนนวิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กทม. 10330 (BTS เพลินจิต ทางออก 2) ตามวันเวลาที่นัดหมาย โดยให้ไปถึงก่อนประมาณ 15 นาที
1. เอกสารยืนยันการนัดสัมภาษณ์
2. เอกสารยืนยันแบบฟอร์ม DS-160
3. หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน
4. รูปถ่ายสำหรับทำวีซ่าอเมริกาขนาด 2×2 นิ้ว 1 ใบ พื้นหลังสีขาว
5. แบบฟอร์ม I-20
6. เอกสารยืนยันการชำระ I-901 (SEVIS Fee)
7. หลักฐานแสดงฐานะทางการเงินสำหรับการศึกษาในปีแรก
7.1 หนังสือรับรองฐานะทางการเงินจากทางธนาคาร (Bank Letter) ระบุค่าเงินเป็น USD
7.2 รายการเดินบัญชี (Statement) เงินเข้า-ออก ย้อนหลัง 6 เดือน
• ใบรับรองการสำเร็จการศึกษา (Degree Certificate)
• ใบแสดงผลการเรียน (Transcript)
• ผลภาษาอังกฤษ (TOEFL / IELTS)
• หนังสือรับรองการทำงานของผู้สมัคร
• สำเนาบัตรประชาชน
• สำเนาทะเบียนบ้าน
• ใบเปลี่ยนชื่อ หรือ ใบเปลี่ยนนามสกุล (หากเคยเปลี่ยน)
• แผนการของผู้สมัคร หลังจากที่เดินทางกลับสู่ประเทศไทยแล้ว (Potential job)
• เอกสารแสดงความสัมพันธ์และสำเนาบัตรประชาชนของผู้สนับสนุน ในกรณีมีผู้สนับสนุนทางการเงิน
• หลักฐานการทำงานของผู้สนับสนุน ในกรณีมีผู้สนับสนุนทางการเงิน
**เอกสารต่างๆ ที่ยื่นเป็นภาษาไทย ต้องนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ**
สำคัญมาก! อย่าลืมนำเอกสารและหลักฐานต่างๆ ไปให้ครบ
– แต่งกายให้สุภาพ สวมชุดที่ค่อนข้างเป็นทางการ
– ตอบคำถามให้ฉะฉาน ตอบตรงคำถาม และพูดตามความจริง เน้นที่แผนการการศึกษาของน้องๆควรให้แม่นยำ น้องๆควรมีการเตรียมตัวสัมภาษณ์ล่วงหน้าด้วยตนเอง หรือกับเจ้าหน้าที่ของทางสถาบันเพื่อความพร้อมและลดความประหม่าในวันสัมภาษณ์จริง
ในส่วนของประกันสุขภาพ ทางสหรัฐอเมริกาจะไม่มีบริการความคุ้มครองสุขภาพจากภาครัฐ ดังนั้น น้องๆ จะต้องเตรียมทำประกันสุขภาพไปเอง ซึ่งโดยปกติแล้ว สถาบันการศึกษาทุกแห่งในสหรัฐอเมริกาจะแนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพเมื่อเปิดภาคเรียนกับทางสถาบัน หรือบางสถาบันจะมีข้อบังคับว่า ผู้เรียนต้องทำประกันกับบริษัทประกันที่สถาบันการศึกษาเป็นผู้ติดต่อให้เท่านั้น หรือคิดรวมกับตอนจ่ายค่าเทอมเลย ซึ่งข้อดีคือ น้องๆ จะมั่นใจได้ว่าประกันสุขภาพตรงตามเงื่อนไข ความคุ้มครองเพียงพอ และทำเคลมได้ง่าย แต่หากน้องๆ มีประกันอยู่แล้ว หรือต้องการซื้อประกันจากที่ไทย ต้องอย่าลืมดูข้อกำหนดของสถาบันการศึกษาให้ดีว่า สามารถทำประกันสุขภาพกับบริษัทประกันที่ไหนได้บ้าง และควรแจ้งแผนประกันกับทางสถาบันให้ทราบ เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขและความคุ้มครอง เช่น วงประกันที่ต้องครอบคลุม โดยควรนำเอกสารเกี่ยวกับแผนประกัน (ฉบับภาษาอังกฤษ) ที่น้องๆ ซื้อจากประเทศไทยติดตัวไปด้วย
รู้หรือไม่? กรณีต้องการขอวีซ่าอเมริกาเร่งด่วน สามารถทำได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพียงแค่แจ้งเรื่องไปยังสถานทูตเพื่อพิจารณาถึงความจำเป็นที่ต้องการยื่นขอวีซ่าอเมริกาแบบเร่งด่วน จากนั้นทางสถานทูตจะแจ้งตารางนัดสัมภาษณ์กลับมา หากผ่านการพิจารณา
• อโศก
อาคารจัสมินซิตี้ ชั้น 3 ซอยสุขุมวิท 23 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110
• เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
ชั้น 6 อาคาร A เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า
• เชียงใหม่
181 ซอย 1 แกแล หมู่ 5 ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่ 50200
ชั้น 9 บล็อก F เลขที่ 68 ซอย 4 ถนนรูสเวลท์ แขวงจองเจิ้ง ไทเป 10046, ไต้หวัน (R.O.C)
• ธากา
กรีน เรเจนซี, บ้านเลขที่ 34, (ชั้น 5) ถนนเลขที่ 10 บล็อค -D, บันบานี ธากา
• เลกอส
ถนนโอเปบี เลขที่ 56, โอเปบี 101233, อิเคจา, ไนจีเรีย
• อาบูจา
ชั้น 3 Churchgate Tower เลขที่ 473 ถนนคอนสติติวชั่น, อาบูจา, ไนจีเรีย
• ไนโรบี
อาคาร Kenrail, Southern wing ชั้น 1, ถนนริง พาร์คแลนด์, เวสต์แลนด์, ไนโรบี, เคนยา
• Nairobi
Kenrail towers, Southern wing – 1st floor, Ring Road Parklands, Westlands, Nairobi, Kenya